ผบ.ตร.ร่วมประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ครั้งที่ 2 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567

ผบ.ตร.ร่วมประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ครั้งที่ 2 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567
เมื่อวันอังคารที่ 23 มกราคม 2567 เวลา 10.00 น. กองบัญชาการกองทัพไทย จัดการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ครั้งที่ 2 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 โดยมี พลเอก ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธาน พร้อมด้วย ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารเรือ, ผู้บัญชาการทหารอากาศ และ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุม 241 อาคาร 2 ชั้น 4 กองบัญชาการกองทัพบก
ถนนราชดำเนิน เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
.
ในโอกาสนี้ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้กล่าวขอบคุณเหล่าทัพ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ได้ร่วมปฏิบัติภารกิจในการสนับสนุนรัฐบาลเป็นอย่างดี โดยเฉพาะเรื่องการช่วยเหลือประชาชน ที่ประสบภัยพิบัติต่าง ๆ ซึ่งช่วยให้สถานการณ์คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น ซึ่งวันนี้ที่ประชุมฯ ได้รับทราบแนวทางการพัฒนาขีดความสามารถของกองทัพและสำนักงานตำรวจแห่งชาติในด้านการฝึก โดยมีสาระสำคัญดังนี้
.
กองบัญชาการกองทัพไทย ได้ชี้แจงให้ที่ประชุมได้รับทราบ จำนวน 2 เรื่อง ได้แก่ นโยบายการฝึกของกองทัพไทย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566-2570 ซึ่งจัดทำขึ้นเพื่อใช้เป็นกรอบแนวทางดำเนินการด้านการฝึกของกองทัพไทย ประกอบด้วย นโยบายทั่วไป จำนวน 14 ข้อ และนโยบายเฉพาะ จำนวน 4 แผนงาน เรื่องที่สอง ได้แก่ การฝึกร่วม และการฝึกร่วม/ผสม ของกองทัพไทย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ซึ่งมีการฝึกที่สำคัญที่เหล่าทัพจัดกำลังเข้าร่วมการฝึก ได้แก่ การฝึกปฏิบัติการร่วม พลเรือน ตำรวจ ทหาร ประจำปี 2567 (กฝร.พตท.67) ซึ่งจะมีพิธีเปิดการฝึกในวันที่ 24 มกราคม 2567 การฝึกร่วม/ผสม Cobra Gold 2024 (CG24) ซึ่งเป็นครั้งที่ 43 ในวงรอบปี Heavy Year ใช้พื้นที่กองทัพภาคที่ 1 และพื้นที่อ่าวไทยตอนบน เป็นพื้นที่ฝึกหลัก โดยนำแนวคิดตามหลักนิยม Combined/Joint All-Domains Operations (CJADO) มาใช้เพื่อยกระดับและเพิ่มความซับซ้อนของปฏิบัติการร่วมระหว่างมิติการรบ และการฝึกร่วมกองทัพไทย ประจำปี 2567 (กฝร.67) ซึ่งเป็นวงรอบการฝึก Light Year บนพื้นฐานของแผนป้องกันประเทศด้านตะวันตก (แผนนเรศวร : ทน.62) นอกจากนี้ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดยังได้มีดำริให้กองทัพไทยพิจารณาริเริ่มการบูรณาการการฝึกร่วมด้านการต่อต้านโดรนและการใช้โดรนโจมตี ด้านการข่าว และการฝึกการปฏิบัติการพิเศษร่วม อีกด้วย
.
กองทัพบก ได้ชี้แจงแนวทางการปรับปรุง พัฒนา และจัดการฝึกประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567ของกองทัพบก โดยมุ่งเน้นการพัฒนาความรู้และความชำนาญให้กับกำลังพลและหน่วย ด้วยการปรับปรุง/พัฒนา การจัดการฝึกตามวงรอบประจำปี การฝึกพิเศษ และหลักสูตรการฝึกอบรมทุกระดับ ควบคู่กับการนำเทคโนโลยีและยุทโธปกรณ์ด้านการป้องกันประเทศที่มีความทันสมัยเข้ามาใช้งานในกองทัพชดเชยการปรับลดกำลังพลทั้งในด้านการฝึก โดยนำบทเรียนจากการรบ การปฏิบัติการ และการฝึก มาประยุกต์ใช้เป็นแนวทางจัดการฝึก ด้านการฝึกร่วม/ผสมกับกองทัพมิตรประเทศ ซึ่งมีเป้าหมายในการทำการฝึก แยกเป็น กลุ่มกองทัพมิตรประเทศที่มีหลักนิยมเหมือนหรือใกล้เคียงกับกองทัพบก, กลุ่มกองทัพมิตรประเทศที่มีหลักนิยมไม่เหมือนกับกองทัพบก และกลุ่มกองทัพประเทศเพื่อนบ้าน ด้านการฝึกอบรม มุ่งพัฒนาระบบการฝึกอบรมทั้งระบบ เริ่มต้นจากการปรับปรุงหลักสูตรตามแนวทางรับราชการ โดยปรับลดเวลาการบรรยายในห้องเรียน ปรับลดวิชาที่ไม่ใช่วิชาหลัก ลดความซ้ำซ้อนของวิชาในหลักสูตรแต่ละระดับ ใช้การถกแถลง แลกเปลี่ยนการเรียนรู้และเพิ่มการฝึกปฏิบัติตามความชำนาญการทางทหาร รวมทั้งใช้ระบบสารสนเทศในการเตรียมความพร้อมให้กับกำลังพลก่อนเข้ารับการฝึกอบรม
.
กองทัพเรือ ได้นำเสนอแนวทางการฝึกกองทัพเรือประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ซึ่งถือเป็นการฝึกที่สำคัญที่สุดของกองทัพเรือ ภายใต้แนวคิดการบูรณาการกำลังรบ ครบทั้ง 4 มิติ โดยมีหัวข้อการฝึกที่สำคัญ แบ่งเป็น 3 ส่วน ได้แก่ การฝึกแลกเปลี่ยนความรู้, การฝึกปัญหาที่บังคับการ CPX และการฝึกภาคสนาม/ภาคทะเล โดยในห้วงแรกเป็นการฝึกการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและบรรเทาภัยพิบัติทางทะเล HADR บริเวณพื้นที่อำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ในระหว่างวันที่ 1-5 เม.ย. 2567 ห้วงที่ 2 เป็นการฝึกในทะเล ระหว่างวันที่ 7-15 พฤษภาคม 2567 เป็นการจัดตั้งกองเรือเฉพาะกิจปฏิบัติการระยะไกล ทำการฝึกปฏิบัติการทางเรือสาขาต่าง ๆ ได้แก่ การฝึกยกพลขึ้นบก การฝึกยิงตอร์ปิโดแบบ MK 46 จำนวน 4 ลูก โดย ร.ล.ภูมิพลอดุลยเดช และ ร.ล.นเรศวร การฝึกยิงอาวุธปล่อยนำวิธีพื้น – สู่ – อากาศ แบบ Evolved Sea Sparrow Missile หรือ ESSM โดย ร.ล.ภูมิพลอดุลยเดช และ ร.ล.ตากสิน การฝึกปฏิบัติการร่วมระหว่างเรือของกองทัพเรือ และอากาศยานของกองทัพอากาศ ในการป้องกันภัยทางอากาศให้กับกองเรือ ตลอดจนการฝึกป้องกันพื้นที่ และการฝึกป้องกันฐานทัพท่าเรือของทัพเรือภาค จากนั้นเป็นการฝึกภาคสนาม ในห้วงวันที่ 20-24 พฤษภาคม 2567 โดยเป็นการฝึกการยิงอาวุธทางยุทธวิธีในพื้นที่อ่าวไทย จังหวัดชลบุรี และการฝึกดำเนินกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริง ของหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ร่วมกับกองทัพบก และกองทัพอากาศ ณ สนามฝึกกองทัพเรือ หมายเลข 16 บ้านจันทเขลม จังหวัดจันทบุรี ทั้งนี้ กองทัพเรือ ยังคงตั้งมั่น และดำรงแนวทางในการฝึกที่ว่า “รบอย่างไร ฝึกอย่างนั้น” เพื่อให้ผู้รับการฝึกสามารถนำบทเรียนจากการฝึกไปใช้ในการปฏิบัติงานในสนามรบได้จริง และได้รับการพัฒนาการฝึกอย่างต่อเนื่อง
.
กองทัพอากาศ ได้นำเสนอแผนการฝึกที่สำคัญของกองทัพอากาศในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 โดยมีแนวคิดในการจัดการฝึกเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการปฏิบัติภารกิจทั้งด้านการรบและมิใช่การรบ ตอบสนองทั้งในระดับยุทธวิธี ยุทธการ และยุทธศาสตร์ เพื่อให้กำลังพลมีขีดความสามารถในการวางแผน อำนวยการ ประสานงาน และปฏิบัติภารกิจ โดยอาศัยการฝึกต่าง ๆ ที่จัดขึ้นเป็นโอกาสในการพัฒนาและยกระดับขีดความสามารถของกำลังพลให้มีความพร้อมตั้งแต่ระดับหมู่บิน ฝูงบิน และการประกอบกำลังขนาดใหญ่ในการปฏิบัติการร่วม/ผสม ตลอดจนการบูรณาการกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ในภารกิจด้านความมั่นคง การบรรเทาสาธารณภัยและช่วยเหลือประชาชน พร้อมรองรับภัยคุกคามและความท้าทายในทุกมิติในอนาคต อาทิ การแข่งขันการปฏิบัติการทางอากาศยุทธวิธี ประจำปี 2567, การทดสอบการใช้กำลังกองทัพอากาศ ประจำปี 2567, การฝึกร่วม/ผสม Cobra Gold 2024, การฝึกผสม Cope Tiger 2024, การฝึกผสม Pitch Black 2024, การฝึกผสม Falcon Strike 2024, การฝึกบินควบคุมไฟป่ากองทัพอากาศ ประจำปี 2567 และการฝึกซ้อมการค้นหาและช่วยเหลืออากาศยานประสบภัย ประจำปี 2567 หรือ SAREX 2024 เป็นต้น
.
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้บรรยายสรุป การฝึกร่วมที่สำคัญ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้แก่ โครงการฝึกอบรมหลักสูตรปฏิบัติการเรือเล็ก (Small Boat Operations Course) ซึ่งเป็นการฝึกอบรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของข้าราชการสังกัดกองบังคับการตำรวจน้ำ การปฏิบัติงานในแม่น้ำ รวมทั้งเป็นการเสริมสร้างประสิทธิภาพในการป้องกันปราบปรามยาเสพติด และอาชญากรรมที่เกิดขึ้นตามแนวแม่น้ำ โดยความร่วมมือด้านการบังคับใช้กฎหมายและยาเสพติด (International Narcotics and Law Enforcement Section – INL) จากสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำราชอาณาจักรไทย การฝึกปฏิบัติการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ร่วมกับบริษัทรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย และบริษัททางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ (รถไฟฟ้าใต้ดิน) ซึ่งเป็นการซักซ้อมแผนเผชิญเหตุ Urban Operation สำหรับการปฏิบัติการร่วมกัน เมื่อเกิดสถานการณ์ไม่ปกติภายในสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินร่วมกับเจ้าหน้าที่รถไฟฟ้า MRT และบริษัททางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เพื่อพัฒนาแผนการต่อต้านการก่อการร้าย ให้ทันสมัยกับสถานการณ์ในปัจจุบัน โครงการฝึกอบรมเตรียมความพร้อมหน่วยปฏิบัติการพิเศษ เพื่อค้นหาสุดยอดทีมปฏิบัติการพิเศษ เป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมแข่งขัน UAE S.W.A.T. Challenge 2024 ณ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 3-7 กุมภาพันธ์ 2567 ซึ่งจะได้นำมาพัฒนา
หน่วยปฏิบัติการพิเศษตำรวจไทย อีกทั้งเป็นการสร้างความสัมพันธ์กับหน่วยงานตำรวจทั่วโลก เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชน
.
ทั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้เน้นย้ำให้เหล่าทัพ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงกลาโหม ด้วยความมุ่งมั่น ตั้งใจ ทุ่มเท และเสียสละ เพื่อประโยชน์ต่อประเทศชาติ ประชาชน และสถาบันพระมหากษัตริย์ ดำรงการสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจการรักษาความมั่นคงตามแนวชายแดนอย่างเต็มที่รวมทั้งเร่งดำเนินการจัดหายุทโธปกรณ์สนับสนุนการปฏิบัติให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น พัฒนากำลังพลให้มีความรู้ความสามารถ เพื่อรองรับภัยคุกคามในทุกรูปแบบ ร่วมกับการสร้างองค์ความรู้ในเรื่องการใช้ชีวิต การสร้างทัศนคติที่ดีในการปฏิบัติงาน เพื่อให้สามารถนำไปเป็นแนวทางการปฏิบัติ ภายใต้สถานการณ์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน